วิธีลดความร้อนภายในสำนักงาน โดยการเลือกติดฟิล์มกรองแสง

ต้องบอกว่าในช่วงเดือน เมษายน ที่ผ่านมานั้นสภาพอากาศของประเทศไทยนั้นร้อนเอามากๆ หลายๆคนก็มักจะเลือกที่จะอยู่แต่ในบ้านเพราะเนื่องจากด้วยทั้ง ไวรัสโควิด – 19 และก็ไม่อยากจะออกไปเจอแดดร้อน ๆ ที่ตามท้องถนนที่เผาจนผิวหนังของเราแทบจะไหม้ในช่วงเวลากลางวัน แต่อย่างไรก็ตามการที่เรานั้นจะอยู่แต่บ้านก็ไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ เพราะอาจจะทำให้เราต้องช็อคกับบิลค่าไฟที่อาจจะสูงขึ้นมากจนน่าตกใจจากการที่เรานั้นต้องเปิดแอร์ในบ้านทั้งวันได้เช่นกัน วันนี้เราจึงจะมาแนะนำเคล็ดลับดี ๆใน วิธีลดความร้อน ภายใน สำนักงาน หรือ บ้าน โดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงราวๆกับค่าไฟ

6 วิธีลดความร้อน ภายในสำนักงาน โดยเลือกติดฟิล์มกรองแสง

1. เปลี่ยนเป็นม่านฟิล์ม
เปลี่ยนผ้าม่านของคุณเป็น ฟิล์มม่านม้วน หรือ ม่านกรองแสง เพราะม่านเหล่านี้สามารถกันความร้อนได้ถึง 90% และป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99 % และยังสามารถช่วยสะท้อนความร้อนออกจากตัวอาคาร ส่งผลให้อุณหภูมิภายใน สำนักงาน หรือ อาคารต่างๆ ลดลงได้ประมาณ 2-3 องศา จึงจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 20% ในเวลากลางคืนสามารถดึงม่านประหยัดพลังงานขึ้น ทำให้มองเห็น บริเวณนอกอาคารอย่างชัดเจน ขณะที่ในเวลากลางวันเมื่อดึงม่านลงมาจะช่วย ลดแสงและกันความร้อนเข้าสู่ภายใน สำนักงาน ทำให้อากาศเย็นสบาย ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นที่สะสมของฝุ่นและเชื้อโรค สามารถเลื่อนขั้น – ลง ได้ตามความต้องการ

2. การ ติดฟิล์มกรองแสง ให้กับบ้าน
การติดฟิล์มกรองแสง จะช่วยให้ทั้งประหยัดพลังงาน สำหรับบ้าน และ สำนักงาน แถมยังช่วยลดความร้อนและกันความร้อนจากภายนอกสำนักงานทำให้เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็นของเรานั้นไม่ต้องทำงานหนัก และสิ่งที่สำคัญก็คือจะช่วยให้เรานั้นประหยัดค่าไฟ เพิ่มความสวยงาม ไม่บดบังทัศนียภาพ ช่วยลดแสง และ ช่วยป้องกันรังสียูวี ได้ถึง 99% ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้ผิวหนังคล้ำ เหี่ยวย่น ก่อให้เกิดฝ้า กระ รอยจุดด่างดำต่างๆ รวมไปถึงมะเร็งโรคผิวหนัง และ โรคต้อในตา แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ หรือ ทรัพย์สินภายในที่พักอาศัยและใน สำนักงาน ให้มีอายุการใช้งานมากขึ้น

3. ติดกันสาด
การติดกันสาด นอกจากที่จะช่วยกันฝนได้แล้วนั้นยังสามารถช่วยป้องกันแดดได้ดีอีกด้วย แต่เราจะต้องติดด้านที่โดนแดดเหนือหน้าต่างให้เฉียงประมาณ 45 องศา และควรที่จะเลือกวัสดุของกันสาดที่ไม่สะสมความร้อนเอาไว้ เช่น ไม้ระแนงหรือไฟเบอร์ซีเมนต์ เท่านี้ก็จะสามารถช่วยลดแสงแดดที่เข้ามาในห้องได้ถึง 65 – 77 % ด้วยกัน

4. ใช้หลังคาสีอ่อนและพ่นฉนวนกันความร้อน
การที่เลือกสีของหลังคานั้นก็สามารถกันความร้อนที่แผนเผาเข้าม่านหลังคาได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน การเลือกหลังคาและฝ้าภายในนั้นจะช่วยสะท้อนและป้องกันความร้อนเข้ามาสู่ตัวบ้าน หรือ สำนักงาน ได้ และการที่ติดตั้งฉนวนกันความร้อนก็เป็นอีกวิธีลดความร้อน ในบ้านได้อีกหนึ่งทางเช่นเดียวกัน

5.ตกแต่งภายในด้วยโทนสีอ่อน
การเลือกใช้สีตกแต่งภายในที่เป็นโทนสีอ่อน ควรเลือกโทนสีสว่าง เช่น เลือกใช้สีขาวในแต่งห้อง จะได้ไม่ดูดความร้อนเหมือนสีเข้ม ๆ เช่น สีดำ นอกจากนี้สีอ่อน ๆ ยังส่งผลดีต่ออารมณ์ของผู้อาศัย ทำให้รู้สึก ผ่อนคลายมากขึ้นด้วย

6. ปลูกต้นไม้ประดับ
ปลูกต้นไม้บริเวณหน้าบ้าน และหาไม้ประดับเล็ก ๆ มาไว้ในบ้านโดยเฉพาะในห้องที่อยู่ทิศตะวันออก และทิศตะวันตกจะช่วยในการกรองแสงได้ในระดับนึง และช่วยสร้างความสดชื่นใกล้ชิดกับธรรมชาติ แถมยังช่วยในการถ่ายเทอากาศได้มากขึ้น

แนะนำวิธีติดฟิล์มกระจกบ้าน ด้วยตัวเอง  >>คลิกเลย<<

ฟิล์มกรองแสง ติดกระจก ทาวน์โฮม ตัวช่วยทำให้บ้านเย็น  >>คลิกเลย<<

ข้อดีของการ ติดฟิล์มกรองแสง

1. ช่วยลดความร้อน ประหยัดค่าไฟ – ไม่ว่าจะเป็นกระจกรถยนต์หรือกระจกที่บ้าน ถ้าเราไม่หาอะไรมาป้องกันแสงแดงเลยเนี่ย ห้องของเราจะร้อนแน่นอน และถ้าเปิดแอร์ช่วยก็จะกินไฟมากขึ้นด้วย ดังนั้นการติดฟิล์มจะช่วยลดความร้อนได้แน่นอน แต่ทีนี้จะลดความร้อนได้มากหรือน้อย ก็ต้องขึ้นอยู่คุณภาพของฟิล์มที่คุณเลือกมาติดที่หน้าต่างหรือที่กระจกที่บ้าน

2. ไม่กลัวดำและผิวเสีย – ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนอยากให้ห้องมีแสงสว่างตามธรรมชาติ โดยที่ไม่ต้องเปิดหลอดไฟ แต่ทีนี้เราก็ไม่อยากเปิดผ้าม่านด้วยซิ เหตุผลก็ง่ายๆเพราะว่า… กลัวดำ! กลัวผิวเสีย ดังนั้นการติดฟิล์มที่กระจกห้อง จะช่วยป้องกันเรื่อง UV ได้

3.ไม่เก็บฝุ่น – ปัญหาหลักอย่างนึงของการใช้ผ้าม่านคือ ฝุ่น โดยเฉพาะที่คนที่เป็นภูมิแพ้จะมีปัญหากับฝุ่นได้ค่อนข้างง่าย แล้วผ้าม่านที่ห้องเป็นก็เป็นหนึ่งของเก็บฝุ่นชั้นดี ดังนั้นเราสามารถมองหาเป็นฟิล์มติดกระจกบ้านแทนการใช้ผ้าม่านแทนได้

ข้อเสียของการติดฟิล์มกรองแสงที่คุณต้องรู้ วิธีลดความร้อน

1. ความเข้มอาจจะลดลง อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวโดยตรงเลยครับ ตรงแรกที่ติดฟิล์มที่กระจกนั้นเราต้องการประหยัดเงิน เลยไปติดฟิล์มกับร้านนึงโดยไม่ได้สนใจยี่ห้ออะไรเลย ซึ่งปีแรกที่ติดฟิล์มก็ดูเข้มสะใจมากคะ แต่ทีนี้พอโดนแดดเลียไป 4 – 5 ปี ฟิล์มสีซีดมาก ดังนั้นถ้าห้องที่คุณเลือกติดฟิล์มไม่มีผ้าม่านด้วย และต้องการความเป็นส่วนตัวสูง แนะนำให้เลือกฟิล์มที่มียี่ห้อ ที่จะมีใบรับประกันคะ ฟิล์มดีๆจะประกันอย่างน้อย 7-8 ปี

2. ความเป็นส่วนตัวในยามค่ำคืน ในตอนกลางคืนนั้น ถ้าห้องของเราไม่มีผ้าม่านอยู่เลย การติดแค่ฟิล์มแต่เพียงอย่างเดียว เราต้องเลือกฟิล์มที่มีคุณสมบัติเรื่องนี้ด้วย บางยี่ห้ออาจจะเรียกว่า night vision บางยี่ห้ออาจจะเป็นรุ่นฟิล์มมองได้ทางเดียว แต่โดยส่วนตัวแล้วถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวจริงๆ เราเลือกผ้าม่านนะ เพราะรู้สึกปลอดภัยกว่า

3. เปลี่ยนยาก ข้อเสียอีกข้อที่เราต้องรู้ก่อนติดตั้งเลย ก็คือ เรื่องการเปลี่ยนครับ เพราะผ้าม่านถ้าเราเบื่อก็ไปเลือกซื้อผ้าม่านใหม่ได้ แล้วก็เอามาเปลี่ยนเอง อยากเปลี่ยนทุกอาทิตย์เลยก็ยังได้ครับ แต่ถ้าเป็นฟิล์มการเปลี่ยนฟิล์มติดกระจกบ้านใหม่ เป็นเรื่องที่เสียเวลามาก