ติดผ้าม่าน กับ ติดฟิล์มกรองแสง แบบไหนดีกว่ากัน?

ติดผ้าม่าน

ปัจจุบันที่อยู่อาศัยในสมัยนี้นิยมออกแบบให้มีกระจกหน้าต่างบานใหญ่ไว้ติดกับตัวบ้าน ซึ่งการออกแบบนี้ก็มีข้อดีตั้งมากมายในแง่ของความโปร่งใสและความโล่งแบบสะดวกสบายตา ทำให้เราสามารถมองเห็นแสงจากธรรมชาติได้อย่างง่ายดาย

รวมไปถึงยังเปิดรับอากาศเข้ามาในบ้านได้อย่างสดชื่น แต่ผลเสียที่ตามมาแบบไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือแสงจะจ้า และความร้อนที่แผ่ออกมาจากรังสีดวงอาทิตย์ก็ยิ่งทำให้บ้านของเราร้อนขึ้นทุกวั

เมื่อบ้านพักของเราเริ่มร้อนขึ้น คนไทยส่วนมากเคยชินกับการใช้ผ้าม่านช่วยแก้ปัญหา แม้ว่าปัจจุบันผ้าม่านจะมีแบบที่กันรังสียูวีได้ แต่ประสิทธิภาพของการกันความร้อนยังต่ำกว่าการ ติดฟิล์มกรองแสง เป็นอย่างมาก เพราะฟิล์มทำหน้าที่ลดความร้อนจากแสงแดดไม่ให้เข้ามาในตัวอาคารได้มากกว่าการ ติดผ้าม่าน

ในขณะที่ผ้าม่านกันแสงทำหน้าที่สะท้อนแสงแดดที่เข้ามาในอาคารแล้วออกไปภายนอก ทำให้สุดท้ายแม้ว่าจะติดตั้งผ้าม่านก็ยังไม่สามารถแก้ไขเรื่องความร้อนในบ้านได้อย่างเต็มที่ และควรที่จะ ติดฟิล์มกรองแทง เพิ่มที่อาคารเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ความร้อนเข้าสู่อาคารผ่านทางหน้าต่างอาคารได้

ปัจจุบันฟิล์มอาคารมีวิวัฒนาการที่ช่วยลดความร้อนได้อย่างสูง ซึ่งฟิล์มบางชนิดเป็นฟิล์มกรองแสงความเข้ม 40% ที่สามารถลดความร้อนสูงสุดได้ถึง 60% จะเห็นได้ชัดจากการเปรียบเทียบค่าไฟก่อนติดฟิล์มและหลังติดฟิล์ม

เพราะเครื่องปรับอากาศในบ้านใช้พลังงานในการทำความเย็นน้อยลง เริ่มต้นที่ 8% (รับรองด้วยผลวิจัย) ทำให้ตัวฟิล์มได้รับการรับรองจากกระทรวงพลังงานด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ห้า

นอกจากนี้อีกปัญหาหนึ่งที่ฟิล์มกรองแสงสามารถช่วยบรรเทาได้ดีกว่าผ้าม่านคือปัญหาแสงจ้าภายในอาคาร ซึ่งส่งผลเสียต่อการมองเห็น โดยฟิล์มจะช่วยลดการเกิดแสงสะท้อนในการมองจอโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ ในขณะเดียวกันก็ยังมีแสงสว่างเข้ามาในอาคารได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ

หากต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องความร้อน แสงจ้าในอาคาร การติดฟิล์มกรองแสงที่บานกระจกหน้าต่าง นับเป็นทางเลือกที่เห็นผลชัดเจน และติดตั้งได้ง่าย รวมถึงดูแลรักษาง่ายอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม : สำนักงานร้อน ปัญหาคืออะไร และมีวิธีการแก้ไขอย่างไร?

ติดผ้าม่าน

จะรู้ได้ไงว่า ติดผ้าม่าน หรือ ติดฟิล์มกรองแสง อันไหนดีกว่ากัน

1. ผ้าม่าน

สำหรับผ้าม่านถือได้ว่าเป็นของตกแต่งที่สามารถเพิ่มความสวยงามให้กับที่พักอาศัยได้เป็นอย่างดี ช่วยให้มีบรรยากาศภายในห้องดูเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น และเพิ่มชีวิตชีวาให้กับห้องนั้นโดยที่ไม่ต้องปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้น อีกทั้งยังช่วยบดบังพลางสายตาจากคนภายนอก ทำให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับคนในบ้านได้ รวมถึงได้ความเป็นส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือตอนกลางคืนก็ตาม

อย่างไรก็ตามผ้าม่านทั่วไปจะไม่สามารถกันรังสีอินฟราเรดหรือรังสีความร้อนที่เกิดจากดวงอาทิตย์ได้ เพียงแต่แค่ลดแสงสว่างที่ส่องผ่านเข้ามาในตัวบ้านเท่านั้นเอง หรือหากลดความร้อนก็สามารถลดได้แค่บางส่วน เรื่องการทำความสะอาดและเรื่องการดูแลรักษานั้นก็ยุ่งยากมากกว่าฟิล์มกรองแสง เนื่องจากผ้าม่านเป็นที่สะสมของฝุ่นละอองชั้นดีนี่เอง

2. ฟิล์มกรองแสง

สำหรับ ฟิล์มกรองแสง จะทำหน้าที่ลดความร้อนจากแสงแดดที่เข้ามาภายในอาคาร ซึ่งจะเป็นตัวช่วยที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างมาก สามารถป้องกันรังสี UV ได้มากถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สามารถรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้ซีดจางได้ และยังให้ความเป็นส่วนตัวโดยที่ไม่บดบังทัศนียภาพภายนอกได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องปรับอากาศไม่ให้ทำงานหนัก ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง สามารถประหยัดค่าไฟได้มากกว่าปกติ

นอกจากนี้ก็ยังทำความสะอาดได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่ใช้ผ้าคู่กับน้ำสะอาดเช็ดที่กระจก แต่ข้อเสียคือไม่สามารถให้ความเป็นส่วนตัวในเวลากลางคืนได้ ยกเว้นกรณีที่มีแสงจากด้านในสว่างกว่าด้านนอก มันจะทำให้คนด้านนอกมองเห็นด้านในไม่ได้

ติดผ้าม่าน

ฟิล์มกรองแสงกับ ติดผ้าม่าน เลือกติดอันไหนดี

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อน ทำให้การติดผ้าม่านหรือการติดฟิล์มกรองแสงที่กระจกถือว่าจำเป็นอย่างมากต่ออาคารบ้านเรือน ซึ่งตัวของผ้าม่านกับฟิล์มกรองแสงจะทำงานกันคนละอย่าง โดยที่ผ้าม่านจะเพิ่มความสวยงาม

แถมเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน อีกทั้งยังสามารถเลือกเปิดหรือปิดได้ ทำให้ลดความร้อนจากแสงแดดได้บางส่วน

แต่ผ้าม่านที่กันแดดโดยทั่วไปจะไม่สามารถกันรังสีอินฟราเรดหรือรังสีที่เกิดจากดวงอาทิตย์ได้ ส่วนฟิล์มอาคารนั้นจะทำงานเฉพาะกลางวัน ซึ่งจะเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้หากเป็นฟิล์มแบบมืดหรือฟิล์มที่มีสีเข้ม และฟิล์มอาคารยังกันความร้อนได้ดีป้องกันรังสี UV โดยจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ซีดจาง

และในวันนี้ทางเรามีข้อดีและข้อเสียของการติดฟิล์มกรองแสงกับการติดผ้าม่าน มาให้ทุกคนประกอบการตัดสินใจว่าควรเลือกติดอะไรดีระหว่างฟิล์มกรองแสงหรือผ้าม่าน

รีวิว ติดผ้าม่าน ควบคู่ไปกับการติดฟิล์มกรองแสง

ติดผ้าม่าน

ข้อดีและข้อเสียของการติดฟิล์มกรองแสง

ข้อดี

– ลดความร้อนได้เป็นอย่างดี

– เพิ่มความเป็นส่วนตัวจากการมองขอวคนภายนอก

– เพิ่มความสวยงามให้กับภายนอกอาคารได้

– ป้องกันรังสี UV ได้มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์

– ช่วยให้บ้านเย็นสบายมากขึ้น

ข้อเสีย

– ไม่ให้ความเป็นส่วนตัวในเวลากลางคืน

– หากติดฟิล์มเข้มตอนกลางคืนจะมองเห็นด้านนอกได้ยาก

ติดผ้าม่าน

ข้อดีและข้อเสียของการ ติดผ้าม่าน

ข้อดี

– ผ้าม่านจะช่วยลดแสงแดด

– ลดความร้อน

– เพิ่มความเป็นส่วนตัวในเวลากลางวันและกลางคืน

– ใช้เป็นของตกแต่งภายในและเพิ่มความสวยงามให้กับห้องพักหรือด้านในอาคารได้อย่างดี

– ป้องกันรังสี UV ได้เฉพาะเวลาที่ปิดม่านเท่านั้น

ข้อเสีย

– การใช้ผ้าม่านทึบแสงจะทำให้ห้องมืดจึงทำให้ต้องเปิดไฟ ส่งผลให้สิ้นเปลืองค่าไฟมากขึ้น และยังมองวิวจากภายนอกไม่ได้

– การทำความสะอาดและการดูแลรักษาผ้าม่านจะค่อนข้างยุ่งยากกว่าการติดฟิล์ม

– ผ้าม่านจะเป็นที่สะสมของฝุ่นอาจจะส่งผลเสียต่อคนที่เป็นภูมิแพ้

อ่านเพิ่มเติม : วิธีระบายความร้อน ลดอุณหภูมิ ทาวน์เฮาส์

 

สรุป ติดผ้าม่าน VS ติดฟิล์มกรองแสง

แต่ละอย่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ซึ่งถ้าเรา ติดฟิล์มกรองแสง และติดผ้าม่าน ด้วยก็จะยิ่งทำให้บ้านของเราเย็ฯสบายขึ้น ทำให้ความร้อนจากภายนอกเข้ามาในตัวบ้านได้อย่างลำบาก

ติดม่านทั้งหลังทำไมยังร้อน!! คลิปนี้มีคำตอบ!!!

สนใจ ติดฟิล์มกรองแสง คอนโด บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม สำนักงานออฟฟิต

สำหรับท่านที่สนใจติดฟิล์มกรองแสง ลดความร้อน ป้องกันรังสียูวี เพิ่มความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มบ้าน ฟิล์มคอนโด ฟิล์มอาคาร ติดต่อโดยตรงได้ทางไลน์ Line ID : @365film

ทำไมต้องเลือก 365 Building film

  • ราคาสินค้าเริ่มต้น 70 บาท ต่อตารางฟุต
  • ติดตั้งเร็ว บ้านเดี่ยว คอนโด ภายใน 1 วัน
  • ติดโดยช่างมืออาชีพ ประสบการณ์สูง
  • บริการวัดพื้นที่ฟรี
  • สินค้ารับประกันสูงสุด 10 ปี
  • แก้งานติดตั้งฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย

บริการให้คำปรึกษาก่อนการติดตั้ง ประเมินราคาฟรี!!

ดูผลงานการติดตั้ง